หลายคนอาจเคยเจอปัญหาเงินไม่พอใช้จนถึงสิ้นเดือน ทั้ง ๆ ที่เงินเดือนก็ไม่ได้ต่ำกว่าคนอื่น ความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่าย การผ่อนชำระ และค่าใช้จ่ายประจำวันอาจสะสมจนเครียดโดยไม่รู้ตัว ปัญหาแบบนี้มักเกิดจาก การจัดการเงินส่วนตัวไม่เป็นระบบ หรือยังไม่มีวิธีวางแผนที่เหมาะสมกับตัวเอง

ข่าวดีก็คือ การจัดการเงินส่วนตัวสามารถปรับปรุงได้ง่าย ๆ หากมี วิธีคิดและเครื่องมือช่วยวางแผน ที่เหมาะสม ลองมาดูแนวทางและเคล็ดลับที่จะช่วยให้เงินเดือนไม่รั่วไหลและสามารถรอดได้ทุกเดือน

เริ่มจากการรู้รายรับรายจ่ายจริง

ก่อนจะจัดการเงิน สิ่งสำคัญที่สุดคือรู้ว่า เงินเข้าออกเท่าไหร่ หลายคนอาจคิดว่ารู้แล้ว แต่การจดจริง ๆ จะช่วยเห็นภาพชัดเจน

เริ่มจากบันทึกรายจ่ายประจำวันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าน้ำค่าไฟ หรือช้อปปิ้งออนไลน์ และเทียบกับรายรับทั้งหมดของเดือน วิธีนี้จะช่วยให้เห็นว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่เกินจำเป็นหรือใช้เกินงบ

 

แยกประเภทค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน

การแยกค่าใช้จ่ายเป็นหมวดหมู่ช่วยให้ควบคุมการใช้เงินได้ง่ายขึ้น 

• ค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร
• ค่าใช้จ่ายยืดหยุ่น เช่น ช้อปปิ้ง กาแฟข้างนอก หรือความบันเทิง
• การออมและลงทุน เพื่อสร้างเงินสำรองและเพิ่มพูนความมั่งคั่ง

เมื่อรู้ว่าเงินไปอยู่ส่วนไหนบ้าง จะสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเพิ่มเงินออมได้

 

ทำงบประมาณที่เหมาะสมกับตัวเอง

หลายคนพยายามทำงบประมาณแบบทั่วไป แต่ไม่ได้ปรับตามชีวิตประจำวัน การทำงบประมาณที่เหมาะสมควรสะท้อน รูปแบบรายรับรายจ่ายจริง และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์

วิธีง่าย ๆ คือแบ่งเงินเดือนเป็นสัดส่วน เช่น 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 30% สำหรับความบันเทิง และ 20% สำหรับออมและลงทุน วิธีนี้ช่วยควบคุมการใช้เงินโดยไม่รู้สึกขาดความสุข

 

ใช้เทคนิคการออมแบบอัตโนมัติ

หนึ่งในปัญหาหลักของเงินไม่พอใช้คือ เงินหมดก่อนถึงวันที่ต้องออม การตั้งระบบออมเงินอัตโนมัติช่วยแก้ปัญหานี้ได้

เช่น ตั้งโอนเงินออมเข้าบัญชีออมทรัพย์หรือกองทุนรวมทุกวันที่เงินเดือนเข้า วิธีนี้ทำให้เงินออมไม่ถูกรบกวน และช่วยสร้างวินัยทางการเงินโดยไม่ต้องคิดมาก

 

ลดหนี้และควบคุมบัตรเครดิต

หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เงินไม่พอใช้ การชำระหนี้ให้ตรงเวลาและลดหนี้ให้เร็วที่สุดเป็นวิธีที่ช่วยปลดล็อกการเงิน

เคล็ดลับคือ ใช้วิธี Snowball หรือ Avalanche สำหรับจัดลำดับชำระหนี้ คือ เริ่มจากหนี้เล็กที่สุดก่อนเพื่อสร้างกำลังใจ หรือเลือกหนี้ดอกเบี้ยสูงสุดเพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ย

วางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

หลายครั้งเงินหมดเพราะไม่มีการวางแผนล่วงหน้า การรู้ว่ามีค่าใช้จ่ายพิเศษในเดือนถัดไป เช่น เบี้ยประกัน รถยนต์ หรือค่าเทอมลูก จะช่วยปรับสัดส่วนการใช้เงินในเดือนปัจจุบันได้

การทำ ปฏิทินการเงิน หรือบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษล่วงหน้าจะช่วยให้ไม่ตกใจเมื่อถึงเวลา จัดการได้อย่างราบรื่น

 

เพิ่มรายได้และสร้างเงินสำรอง

ถ้าเงินเดือนเพียงพอใช้แต่ยังไม่พอออม การหาแหล่งรายได้เสริมก็ช่วยให้รอดทุกเดือนได้ง่ายขึ้น เช่น งานฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ หรือทักษะเฉพาะตัวที่สามารถสร้างรายได้พิเศษ

เมื่อมีรายได้เพิ่ม การแบ่งสัดส่วนเพื่อออมและลงทุนจะช่วยให้ฐานะการเงินมั่นคงขึ้น ลดความเครียดเรื่องเงิน

 

การใช้เครื่องมือช่วยจัดการเงิน

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันและโปรแกรมการเงินช่วยจัดการงบประมาณ เช่น แอปติดตามรายรับรายจ่าย แอปฝากเงินอัตโนมัติ หรือแอปลงทุนระยะสั้น การใช้เครื่องมือช่วยทำให้ภาพรวมการเงินชัดเจนและลดข้อผิดพลาด

นอกจากนี้ การตั้งเตือนค่าใช้จ่ายและแจ้งเตือนการออมช่วยสร้างวินัยและทำให้การจัดการเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น

 

การสร้างวินัยทางการเงิน

วินัยคือหัวใจสำคัญของการรอดทุกเดือน ไม่ว่าจะเริ่มจากการบันทึกรายจ่าย การตั้งงบประมาณ หรือออมอัตโนมัติ การทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างนิสัยทางการเงินที่ดี

ลองตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น ออมให้ได้ 5–10% ของรายได้ทุกเดือน หรือจำกัดค่าใช้จ่ายยืดหยุ่นบางรายการ การเริ่มต้นด้วยเป้าหมายเล็กจะทำให้สามารถทำต่อเนื่องและไม่รู้สึกกดดัน

 

การจัดการเงินส่วนตัวไม่เคยพอใช้ไม่ได้เกิดจากรายได้เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการ วางแผนและควบคุมค่าใช้จ่ายไม่เป็นระบบ การรู้รายรับรายจ่าย แยกประเภทค่าใช้จ่าย ทำงบประมาณที่เหมาะสม ออมอัตโนมัติ ลดหนี้ วางแผนล่วงหน้า และสร้างวินัยทางการเงิน คือเครื่องมือที่ช่วยให้รอดทุกเดือน

การปรับนิสัยทีละนิด การติดตามและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เงินเดือนไม่รั่วไหล สร้างความมั่นคงทางการเงิน และลดความเครียดเรื่องเงินได้จริง